วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

น้ำยาหล่อเย็น


ข้อความที่คัดมา กดที่ข้อความเพื่อไปยังที่มาครับ
"พิษ จาก Ethylene glycol ที่ผสมอยู่ใน น้ำยาหล่อเย็น
สำหรับผู้ที่ต้องการดูดออก ด้วยตัวเอง

วิธีแรก :
ใช้วิธีลักน้ำ จาำกสายยาง แต่ไม่ใช่วิฺฺธี ปลายหนึ่งจุ่มน้ำ ปลายหนึ่ง ใช้ปากดูด

ให้ใช้วิธี กรอกน้ำในสายยางให้เต็ม มือ อุดสายยางสองข้างไว้ 
หลังจากนั้น ให้นำปลายนึงจุ่ำมน้ำในหม้อพัก และ ปล่อยอีกปลาย ลง พาชนะที่รองรับที่อยู่ำ้ำต่ำกว่าถังสำรอง อย่างรวดเร็ว 

หรือ ใช้วิธี ปลายนึ่ง จุ่มน้ำในหม้อพัก ปลายนึง ต่อก๊อกน้ำ แล้วเปิดน้ำให้น้ำเข้าสายยางให้เต็ม ซึ่งอาจมีน้ำเข้าหม้อพักบ้าง
พอน้ำเต็มสายยาง ให้ปิดน้ำก๊อก ปลดสายยาง ออกจากปลายก๊อก ปล่อยลงสู่ พาชนะรองรับ

วิธีที่สอง :
ไปซื้อ สลิ๊ง(หลอดฉีดยา) เบอร์ใหญ่ๆหน่อย ไม่ต้องเอาเข็ม หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
หาสายยาง หรือ สายอ๊อกซิเจนตู้ปลา ขนาด พอที่จะใส่ หัวสลิ๊งได้พอดี แล้วตัดให้ได้ความยาวพอเหมาะ

ค่อยๆ ใช้สลิ๊งดูดออกมา ที่ละหน่อย

แต่ ขอร้อง แนะนำ เตือน ห้าม ว่า อย่า พยายาม สัมผัส หรือ ดูด น้ำยาหล่อเย็นเด็ดขาด"

การเพิ่มจุดเดือดและจุดเยือกแข็ง
อ่านต่อได้ที่นี่

ค่า PH
"คุณ kk การล้างด้วยน้ำยาล้างหม้อน้ำ ก็เป็นการเอากรดไปกัดตะกรัน 
แต่ต้องล้างออกให้ดีก่อนใส่น้ำนารักษาหม้อน้ำ 
น้ำยารักษาหม้อน้ำเป็นด่าง เมื่อไปเจอกับกรด ของน้ำยาล้างหม้อน้ำ 
คราวนี้ก็เกิดเป็นไอกรดสีเหลื่องให้เห็นหลังจากใส่ไป 2-3 วันลองเปิดฝาหม้อน้ำดู 

การใส่น้ำยารักษาหม้อน้ำเป็นการปรับสภาพ PH ให้น้ำมีค่า ประมาณ 11 กว่านิดๆ 
เป็นจุดที่เหล็กไม่เป็นสนิม และปรับสภาพของ HARDNESSให้เปลี่ยนรูปไปไม่ทำให้เกิดตะกรัน (เป็นการปรับสภาพน้ำในหม้อไอน้ำ) 

ผมใช้วิธีนี้ ใส่น้ำกลั่นหรือน้ำดื่ม RO (TDS และHARDNESS ไม่มี) ใส่น้ำยารักษาหม้อน้ำ 2 ขวด สลับใส่จนเต็มหม้อน้ำ (เปลี่ยนเอง เพราะที่ศูนย์ใช้น้ำอะไร) 
แล้วแค่น้ำขาดหรือเปล่าเท่านั้น ถ้าขาดก็เติมกลั่นหรือน้ำดื่ม RO ใช้มา 2-3 ปียังไม่เปลียน ไม่มีเรื่องความร้อนเครื่องหรือตะกรันในหม้อน้ำมากวนใจเลย"

ไม่มีความคิดเห็น: