วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ ให้อยู่กับเรานานที่สุด

ลิ้งที่เกี่ยวข้อง ประโยชน์จากเกจวัดโวลต์ 
ซึ่งผมได้เขียนไว้สักระยะแล้ว แต่คราวนี้เอาเรื่อง แบตเตอรี่ ตรงๆ เลยให้ใช้กันได้ยาวๆ ไปเลยเพราะซื้อมาแล้วไม่ใช้บาท 2 บาท
เหตุที่ผมเขียนเรื่องนี้เพราะว่า หลังจากที่ที่ทราบข่าวว่าน้องสาวเพื่อนแฟนผมเป็นมะเร็ง 
ผมเลยเกลงว่าเราจะเป็นด้วยเพราะว่ามีอาการคล้ายๆ กัน
เข้าเรื่องกันเลย

แบตเตอรี่รถยนต์

 เราเป็นคนใช้รู้แค่เบื้องต้นพอก็คือมันมีอยู่ 3 อย่างหลักๆ คือ
  1. สิ่งที่เราเห็นกันคือ ไอ้เจ้าพลาสติกที่เราเห็นเป็นรูป 4 เหลี่ยมที่เราเรียกมันว่าแบตเตอรี่แหละครับ เป็นเหมือนกล่อง 1 ใบ
  2. แผ่นธาตุ ที่อยู่เข้าใน
  3. น้ำกรด
ซึ่งทั้ง 3 อย่างที่เราต้องดูแลมันครับ แต่จะดูแลได้มากหรือน้อยเท่าไหร่ตามอ่านกันต่อครับ
เจ้ากล่องพลาสติกเราทำได้แค่ทำความสะอาดมันเท่านั้นครับ หรือไม่ก็จะทำให้มันอยู่อย่างสุขบายมากขึ้น ก็จะมีชุดป้องกันความร้อนแบตติดรถยนต์ที่ออกมาจากโรงงานผมว่ามันจะมีมาให้ครับพื่อป้องกันความร้อนจากเครื่องยนต์ซึ่งจะทำให้มันบวมหรือเสียหายได้ในระยะยาวครับ เราช่วยกันความร้อนให้มันมากเท่าไหร่ได้มันก็จะดีถูกหรือเปล่าครับ

ส่วนข้อ 2 แผ่นธาตุ 
มันจะธาตุอะไรชั่งมันเถอะครับหรืออยากจะรู้ก็หาอ่านเอาคงมีหลายที่บอกอยู่  ส่วนสำหรับผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากสังเกตุว่ามันจะลาจากเราไปเมื่อไหร่เท่านั้นครับ  อ่อลืมไปเราจะช่วยมันได้ก็ทางอ้อมๆ อ่านต่อไปครับซึ่งมันจะเกี่ยวกันกับแผ่นธาตุครับ

ส่วนข้อ 3 น้ำกรด 
ผมให้ความสำคัญกับข้อนี้มากที่สุดครับเพราะมันเป็นตัวเก็บกระแสไฟ  ฉะนั้นหากน้ำกรดผิดไปจากมาตรฐานที่ควรจะเป็นก็ส่งผลให้เกิดผลต่างๆครับเช่นเก็บไฟไม่อยู่หรือชาร์ไม่เข้าอะไรประมาณนั้น

หนทางแก้ไขสำหรับผมคือทำให้น้ำกรดเป็นไปตามมาตรฐานซะ โดย
กรณีปกติ
คือเราก็เติมน้ำกลั่นให้ตามระดับที่เค้ากำหนดครับ
ตรวจสอบไดชาร์ทให้ทำงานปกติ เพราะถ้ามันไม่ปกติ จะส่งผลกับแบตของเรา เช่น
ถ้ามันไม่ตัด มันก็จะชาร์ทไฟเข้าแบตเราตลอดทั้งๆ ที่ไฟเต็มแล้วก็ตาม ทำให้แบตมันร้อนและเสียหายได้ 
ถ้ามันชาร์ทไม่พอ คือไดชาร์ททำงานสร้างกระแสไฟไม่พอสำหรับการใช้งาน เพราะรถต้องใช้ไฟในการจุดระเบิดและเครื่องใช้อื่นภายในรถร่วมทั้งชาร์ทไฟให้กับแบตด้วย หากเกิดมันมีปัญหาดังกล่าว ผลก็คือตอนเช้าคุณก็จะติดเครื่องไม่ได้นั้นเอง 

ปัญหาดังกล่าวจะตรวจสอบได้ง่ายไม่ยากนั
ตามลิ้งได้บนที่ให้ไว้

ประโยชน์จากเกจวัดโวลต์ 

เพราะที่จะให้ความสำคัญกับไดชาร์ท เพราะมันส่งผลกับบตเลยต้องกล่าวเพิ่มเติม ถ้าคุณไม่ได้ดูแลไดชาร์ทเท่ากับว่าคุณก็ไม่ดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยเช่นกัน
ไดชาร์ท ควรจะมีแรงดันไฟ( V.) ที่พอที่จะชาร์ทได้
คือยังไงก็ควรมากกว่า 12V. ถูกต้องเปล่าครับ เพราะแบตมันก็ 12V. มันเท่ากันแล้วไฟจะชาร์ทเข้าได้อย่างไร รียบเสมือน่อยางและทั้ง2ด้านต่อกับเข็มฉีดยา สมมุติทางซ้ายมีน้ำอยู่นิดหน่อย ทางขวามีอยู่เต็มและออกแรกดันทั้ง2ข้างพร้อมกันเท่าๆ กันคุณคิดว่าน้ำมันจะเครื่องที่ได้หรือไม่??????  มันก็ไม่ได้ถูกต้องเปล่าครับ
ราะฉะนั้นแรงดันมันต้องมากกว่า 12V. คือ 13.5แต่ไม่ควรเกิน 15V. เพราะถ้ายิ่งมันไฟมันมาเร็วก็จะทำให้แบตร้อนซึ่งจะทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพไว้ขึ้น

่อมาก็ต้องดูว่ามีไฟชาร์ทให้กับแบตพอหรือไม่ 
คราวนี้ต้อมีเครื่องมือเข้ามาช่วยครับคือ amp มิเตอร์ ขอพูดตามร้านทั่วไปคุณจะเห็นเค้าทำเป็นกล่องและมีสายหนีบที่แบตและก็ที่สายไฟที่มาจากไดชาร์ทเพื่อดูว่ามีไฟชาร์ทเข้าแบตพอหรือไม่ครับ
รายละเอียดเดี๋ยวจะเขียนให้ละเอียดอีกทีครับ

จากที่กล่าวมาเป็นการดูแลที่เราพอจะทำได้โดยทั่วๆ ไป
หลังจากนี้เป็นจุดสำคัญที่ไม่ค่อยมีคนพูด ไม่ค่อยมีคนบอก ถึงแม้แต่ร้านขายแบต ร้านซ่อมไดร์ทก็ไม่ค่อยพูด แต่ผมขอบอกเพื่อที่ความรู้นี้จะได้อยู่กับคนที่อ่านต่อๆไป ครับเผื่อผมตายไปดีกว่าสิ่งที่ผมรู้มันตายไปกับผมคือ
น้ำกรดที่อยู่ในแบตถ้าคุณตรวจสอบได้ว่ามันมีความถ่วงจำเพาะ เป็นไปมาตรฐานหรือไม่ก็จะทำให้แบตเก็บไฟได้หรือไม่ได้หรือไม่ดีเท่าที่ควร
อันนี้ต้องหาซื้อมาใช้ครับเป็นอุปกรชิ้นหนึ่งที่คนรักรถควรจะมีครับ
คือ ไฮโดรมิเตอร์ 
หมดเวลาพิมพ์แล้วเดี๋ยวมาพิมพ์ต่อครับต้องไปทำหน้าที่สามีก่อน     
 

ไม่มีความคิดเห็น: